หมวดหมู่: เคล็ดลับเส้นผม

เทรนด์สีผมยอดฮิตสำหรับสาวสวยในปี 2022

เทรนด์สีผมยอดฮิตสำหรับสาวสวยในปี 2022

เรื่องสวยๆงามๆสำหรับผู้หญิงจะมีไม่กี่เรื่องหลักๆที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ของเราโดยตรง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสีผมของเรา เคยได้ยินว่าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า แต่ที่จริงแล้วสีผมก็ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นด้วยเหมือนกัน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีสีผมโทนน้ำตาลธรรมชาติไปถึงดำ และในยุคนี้เป็นเทรนด์สีผมที่มีมาเรื่อยๆแบบไม่ซ้ำเลย บทความนี้จะยึดจากเทรนด์เกาหลีเป็นส่วนใหญ่ เพราะต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศเกาหลีเป็นผู้นำด้านแฟชั่นให้คนยุคใหม่ได้ดีที่สุด โดยคนไทยส่วนใหญ่ก็จะตามเทรนด์เกาหลีกันมากกว่า นอกจากจะเป็นสายฝอก็อาจจะฉีกแนวไปนิดหน่อย แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของสีผมจะไม่เหมือนกับการเลือกเสื้อผ้า ถ้าหากเลือกเสื้อผ้าผิด ก็แค่เปลี่ยนชุดใหม่ แต่ถ้าหากเลือกสีผมผิด นอกจากจะทำให้ผมเสียแล้ว ยังใช้เวลาในการเปลี่ยนสีอีกด้วย หรือจะเรียกง่ายๆว่าพังนั่นเอง ใครที่คิดภาพสีผมที่เข้ากับหน้าไม่ออก แนะนำให้ลองอ่านบทความนี้ดู อาจจะช่วยให้คุณได้เกิดใหม่อีกครั้งก็เป็นได้

สีผม 2022 เปลี่ยนลุคให้สวย

สีผม Platinum Hair – ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2021 จนมาถึงตอนนี้กระแสสีผม Platinum Hair ถือว่ามาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ แต่ข้อเสียก็คือทำได้ยากและต้องฟอกหนักมากกว่าจะออกมาได้เฉดสีเทาเงินแบบนี้ และใครที่ชอบหรือรักในโทนนี้ถ้าไม่อยากให้หน้าพัง แนะนำให้เลือกสีที่เข้ากับผิวหน้าด้วยดีกว่า สีเทาเงินจะเหมาะสภาพผิวเหลืองจนถึงขาว ใครที่ผิวหน้าคล้ำอาจจะทำให้หน้าหมองได้

สีผม White Blonde – เรียกได้ว่าถ้ามั่นใจก็จัดได้เลยแม่ สังเกตได้ว่าสีบลอนด์ติดอยู่ในลิสต์เทรนด์ผมมาตลอด ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ซึ่งเป็นสีที่โดดเด่นและสามารถเปลี่ยนหน้าคนได้เลยก็ว่าได้ ยิ่งมาในยุค 2022 แบบนี้ คนปังๆเขาทำกันเยอะมาก ซึ่งนิยมมาจากกลุ่มไอดอลเกาหลี แต่สีนี้สายฝอก็จัดกันไปไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะหน้าคล้ำหรือผิวเหลือง จัดสีนี้ไปรับรองว่าปังแน่นอนจ้า

สีผม Red Copper – สีนี้ไม่ว่าจะเป็นไอดอลเกาหลีหรือสายฝอก็นิยมกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นยุคที่โลกเปิดกว้างแบบนี้ สายแฟชั่นจ๋าต้องจัดแล้ว แต่ไม่เหมาะกับสายแบ๊วใสใส เพราะเฉดผมจะออกสีส้มแดง ทำให้หน้าดูสว่าง มีออร่าและฉีกลุคเป็นสาวเปรี้ยวทันที แต่สีนี้ส่วนใหญ่จะเห็นได้จากสาวที่มีลุคแซ่บ หรือเป็นสายฝอไปเลยมากกว่า แนวใสใส แต่งหน้าเบาๆอย่าหาทำ อาจจะทำให้หน้าแก่ได้

สีผม Walnut – สีนี้เห็นแล้วต้องกรี๊ด เป็นเฉดสีที่ทำได้ยากมากๆ ร้านต้องเป็นมืออาชีพจริงๆถึงจะได้สีนี้มา เป็นโทนน้ำตาลประกายทองหม่นเขียว เพิ่มความละมุนให้กับใบหน้าที่สดใสของเราได้ คนผิวคล้ำก็ทำได้นะ ช่วยให้หน้าสว่างสดใส ไม่โฉ่งฉ่างเกินไป แต่งตัวเรียบหรูอาจจะดูเป็นลูกคุณหนูเลยก็ว่าได้ ถึงแม้สีจะดูทำง่ายแต่บอกก่อนเลยว่าต้องใช้เวลา บางคนอาจจะต้องกัดจนผมเสียกันเลยก็ว่าได้ แต่คุ้มกับหน้าสวยของเราแน่นอน

สีผม Dark Ash Brown – นิยมมากในหมู่ไอดอล สีน้ำตาลเข้มหม่น เหมาะกับผู้ที่รักการทำสีผมแบบธรรมชาติจะต้องเลิฟแน่นอน ไม่ประเจิดประเจ้อเกินไป และสีผมจะช่วยให้หน้าดูสว่าง ไม่ว่าจะม้วนลอน หนีบตรง ก็สวยไม่จกตา ยิ่งตอนออกแดดมีออร่าสุดๆ เรียกได้ว่าถ้าผู้ชายมองคุณจะดูเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจสุดๆ แถมสีนี้ยังช่วยพรางผมเสียให้ดูนุ่มสลวยมีวอลลุ่มขึ้นอีกต่างหาก

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการนำเสนอสีผมเท่านั้น เทรนด์สีในปี 2022 มีไม่ต่ำกว่าร้อยเฉด ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล และสีที่กล่าวมาไม่จำเป็นต้องใช้กับเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายแมนๆก็สามารถทำได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ล้วนอยากมีใบหน้าที่หล่อสวยกันทั้งนั้น ซึ่งการทำสีผมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บุคลิกเราดูดีขึ้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มนักบอลต่างชาติ ติดตามได้จากโปรแกรม บอลพรุ่งนี้ มีนักฟุตบอลหลายคนที่ย้อมสีผมหลายเฉด เพื่อเป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ของตัวเอง ต่อให้หน้าตาจะไม่ได้หล่อระดับพระเอก แค่มั่นใจก็ทำได้ทุกคน

4 ข้อปฏิบัติเพื่อความงาม สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาผมร่วง

4 ข้อปฏิบัติเพื่อความงาม สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาผมร่วง

รู้หรือไม่ว่าโดยปกติของผู้หญิง เส้นผมจะร่วงประมาณวันละ 50-100 เส้น หากสระผมอาจจะร่วงมากถึง 200 เส้น และจะขึ้นใหม่หลังจากร่วงภายในเวลา 6 เดือน ในปัจจุบัน ผู้หญิงอายุ 18-23 ปี มักมีปัญหาเรื่องผมร่วงและผมบางจำนวนมาก ทำให้มีผลต่อรูปลักษณ์และความงาม เนื่องจากพักผ่อนน้อย เครียด ขาดสารอาหารหรือสะสมจากการทำเคมี หากเส้นผมของคุณมีการร่วงเกินวันละ 50-60 เส้น ควรเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย เช่น โรคตับ โรคไต และไทรอยต์

สำหรับผู้ชายที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป การที่ผมร่วงนั้นมักจะเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากรากผมมีความไวต่อ ฮอร์โมนเอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เส้นผมของผู้ชายมีอายุสั้นกว่าปกติ และทำให้ผมที่งอกใหม่มีลักษณะสั้นและบางลง ดังนั้นเราจึงเห็นผู้ชายที่มีหัวล้านอยู่บ่อย ๆ แต่สำหรับผู้หญิงนั้นไม่ได้มีฮอร์โมนเพศชายมากนัก หากผมของคุณร่วงมากเกินไปอาจจะแสดงถึงสัญญาณความผิดปกติของร่างกาย เพื่อให้แน่ใจจึงควรไปปรึกษาแพทย์ และข้อปฏิบัติ 4 ข้อต่อไปนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยลดปัญหาผมร่วงของคุณ และช่วยเสริมสร้างความงามและบุคลิกภาพที่ดีให้กับคุณได้

1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การขาดสารอาหารบางประเภทหรือการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอมักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผมร่วง โดยเฉพาะการขาดวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ดังนั้นควรเน้นรับประทานผักและผลไม้ให้มาก ๆ

2.ลดความเครียดลง
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมร่วงก็คือความเครียด หากพบว่าผมคุณมักมีการร่วงที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เครียด ควรจะหาวิธีหลีกเลี่ยงในสิ่งเหล่านั้น แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริง ๆ ก็แนะนำให้ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย เที่ยว และ ดูหนัง

3.พักผ่อนให้เพียงพอ
การขาดการพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้ฮอร์โมนขาดความสมดุล จึงมักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ผมร่วงมากขึ้นไปอีก หากคุณเป็นคนที่พักผ่อนน้อยลุ้นทีเด็ดบอลในยามค่ำคืนเป็นประจำ ให้พยายามหาเวลาพักผ่อนให้มากขึ้น

4.ดูแลเส้นผมและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ถ้าอยากให้ผมสวยงามก็ต้องบำรุงเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เหมาะสม สระผมอย่างถูกวิธี เป็นต้น และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่ทำลายสุขภาพของผม อาทิ การย้อมสีผมบ่อยเกินไป การหวีผมแรง การทำผมด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น

ถ้าหากคุณทำตามข้อควรปฏิบัติเพื่อความงามของเส้นผมทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาแล้ว คือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงความเครียด นอนหลับอย่างเพียงพอ และดูแลเส้นผมเป็นอย่างดีแล้ว แต่คุณยังมีปัญหาผมร่วงอยู่ คุณควรจะไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของอาการผมร่วง เพื่อหาสาเหตุและรักษาได้อย่างถูกต้อง

คืนความงามแก่เส้นผมด้วยสูตรหมักผมที่ใคร ๆ ก็ทำได้

ปัจจุบันมีแฟชั่นที่เกี่ยวกับทรงผมทั้งผู้ชายและผู้หญิงให้ได้ปรับเปลี่ยนทรงและสีผมตลอดทั้งปี ซึ่งการย้อมผม ดัด ยืด ไดร์ผม ฯลฯ จะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเส้นผม ทำให้มีปัญหาผมแห้ง ชี้ฟู ขาดน้ำหนัก รวมถึงผมแตกปลายและหงอกก่อนวัยได้

เราจึงได้รวบรวมเทคนิคเสริมสร้างความงามให้แก่เส้นผม ด้วยสูตรหมักผมแบบธรรมชาติ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้จากที่บ้านมาฝากกัน ดังนี้

1. สูตรไข่แดงและกล้วยหอม

ทั้งไข่แดงและกล้วยหอมเป็นของที่หาง่ายจากในครัว ที่สามารถช่วยเสริมสร้างโปรตีนที่ดีแก่เส้นผม บำรุงให้แข็งแรงจากรากผม ทั้งยังกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตมาเลี้ยงที่รากผมมากขึ้น จึงลดปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงง่าย และปัญหาผมหงอกก่อนวัย โดยนำไข่แดง 1 ฟอง และกล้วยหอมสุก 1 ลูก ผสมให้เข้ากัน แล้วหมักที่ผมทิ้งเอาไว้ 30 นาที ทำซ้ำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี

2. สูตรน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณปรับสมดุลให้แก่ผมและหนังศีรษะ ผู้ที่มีปัญหารังแคจากหนังศีรษะแห้ง ผมเส้นเล็กแตกปลายไม่มีน้ำหนัก หรือผมแห้งแข็งกระด้าง สามารถใช้สูตรนี้เพื่อแก้ปัญหาได้ โดยใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นหมักผมเป็นประจำ โดยใช้ผสมกับไข่ไก่ในอัตราส่วนที่เท่ากัน หรือใช้น้ำมันมะพร้าวเพียงอย่างเดียว หมักผมทิ้งไว้ 15 ถึง 30 นาที

3. สูตรน้ำผึ้งผสมกับน้ำมันมะกอก

สำหรับผู้ที่มีผมหยักศกและชี้ฟูง่าย ควรใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำมันมะกอกหมักผม โดยผสมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 หมักผมและนวดคลึงหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 15 ถึง 20 นาที จึงล้างออก ทำเป็นประจำทุกวัน จะทำให้เส้นผมได้รับวิตามินและกรดไขมันชนิดดีที่ช่วยเสริมความสมบูรณ์ของเคราตินใน เส้นผม จึงช่วยฟื้นคืนความชุ่มชื้น เพิ่มน้ำหนักให้เส้นผมจัดทรงง่ายขึ้น

4. เบียร์หมักผม

สำหรับสาวที่ทำสีผมบ่อย ๆ แล้วผมแห้งขาด แตกปลาย หลุดร่วงง่าย แนะนำให้ใช้เบียร์สดหมักผมเป็นประจำ โดยใช้เบียร์ 1 กระป๋อง ผสมกับน้ำมันมะกอก นวดคลึงหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำซ้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะเพิ่มความเงางามให้เส้นผมและบำรุงจากรากผม ลดปัญหาผมบางหลุดร่วงง่ายได้

จะเห็นได้ว่า สูตรหมักผมที่กล่าวมานั้น เป็นการใช้ประโยชน์จากของที่หาได้ง่าย ๆ รอบตัวและมีความเป็นธรรมชาติ ไร้สารเคมีอันตราย ที่ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ควรลดความถี่ในการเปลี่ยนสีผมและลดการใช้ความร้อนที่ทำลายสารเคลือบผิวผม จะทำให้ผมมีสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว

คืนความงามแก่เส้นผมด้วยสูตรหมักผมที่ใคร ๆ ก็ทำได้

ปลอกหมอกผ้าไหมดูแลความงามผิวหน้าและเส้นผม จริงหรือไม่

ปลอกหมอกผ้าไหมดูแลความงามผิวหน้าและเส้นผม จริงหรือไม่

ปลอกหมอนผ้าไหมกำลังได้รับความนิยมและพูดถึงกันมากว่าเป็นเคล็ดลับความงามช่วยให้ผิวหน้าสวยและอ่อนเยาว์ระหว่างนอนหลับ โดยอ้างสรรพคุณของเส้นใยไหมช่วยลดปัญหาสิวและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า หลายคนคงอยากพิสูจน์เรื่องประสิทธิภาพของผ้าไหมว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ลองอ่านความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิว ดร.เอลิซาเบธ แทนซี แพทย์โรคผิวหนังที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันในสหรัฐ เธออธิบายว่าปลอกผ้าไหมไม่ใช่สูตรสำเร็จในการดูแลความงาม เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ชี้ชัดว่าผ้าไหมยับยั้งการเกิดสิวหรือป้องกันริ้วรอยได้ แต่ก็มีประโยชน์ต่อผิวเหมือนกัน

ปลอกหมอนช่วยรักษาความชุ่มชื้น จริงไหม?

ปัจจุบันสาวรักความงามเลือกใช้ครีมบำรุงและมอยส์เจอร์ไรเซอร์หลายชนิดช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นหมุนเวียนของเซลล์ในตอนกลางคืน ผิวเกิดการฟื้นฟูผิวในขณะนอนหลับ เหตุผลที่ปลอกหมอนผ้าไหมเข้ามาเป็นเทรนด์ใหม่เพราะเชื่อว่าจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลาประคบประหงมใบหน้าหลายขั้นตอน เรามาวิเคราะห์กันที่ผลกระทบต่อผิวในด้านการป้องกันริ้วรอย ความจริงคือปลอกหมอนทำจากไหมหม่อน 100% ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังมากกว่าผ้าฝ้าย อย่างไรก็ตาม ริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้มและหางตา เกิดจากหลายสาเหตุรวมถึงการนอนตะแคงใบหน้าด้านข้างแนบหมอนทำให้เกิดรอยย่นบนใบหน้ามากขึ้น ด้วยอายุของผิวและแสงแดดเป็นตัวการทำลายความยืดหยุ่นบนผิว การนอนหงายเป็นวิธีดีที่สุด นอกจากนั้นสาเหตุของสิวยังเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด ลบเครื่องสำอางไม่หมดจด และเหงื่อออกตอนกลางคืน

เหตุผลที่ปลอกหมอนผ้าดีกว่าผ้าฝ้ายแบบดั้งเดิม ดร.เอมี เวคสเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังในนิวยอร์ก อธิบายว่า เป็นเพราะเส้นใยฝ้ายดึงความชุ่มชื้นจากเส้นผมและใบหน้า ทำให้ผิวแห้งและผมแห้ง อีกทั้งความชื้นที่ถูกดึงเข้าไปในหมอนอาจกระตุ้นสารก่อภูมิแพ้และแบคทีเรียทำให้ผิวหนังและเส้นผมเกิดความเสียหาย นอกจากนั้นเนื้อสัมผัสของผ้าไหมยังนุ่มลื่น ช่วยลดแรงเสียดทานทำให้เส้นผมแตกและขาดน้อยลง ไม่ระคายเคืองผิวหนังในขณะนอนหลับปลอกหมอนช่วยรักษาความชุ่มชื้น จริงไหม

ผ้าไหมอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง แต่ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดมีประโยชน์ในแง่ไม่ดึงความชื้นจากผิวหนัง ดร. นีล ชอลท์ซ (Dr. Neal Schultz) แพทย์ผิวหนังในนิวยอร์ก ยืนยันว่าคุณสมบัติของปลอกหมอนผ้าไหมดูจะกล่าวเกินจริงไปมาก แต่เป็นความจริงในเรื่องการรักษาความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและผิว เหมาะสำหรับฤดูหนาวที่อากาศแห้ง ผมไม่แตกหรือยุ่งเหยิงพันกันเมื่อตอนตื่น เส้นใยไหมสวยเป็นเงา ยิ่งใช้ยิ่งนิ่มและเย็นสบาย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า วิธีที่ดีควรล้างหน้าก่อนนอน เปิดแอร์หรือพัดลมเพื่อลดเหงื่อและรูขุมขนอุดตัน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและไม่ระคายเคือง ไม่ควรคาดหวังว่าผ้าไหมจะช่วยกำจัดสิวหรือป้องกันการเกิดสิวได้ หากเป็นสิวควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบริเวณที่เป็นสิว และเลิกสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ จะเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่มีประโยชน์มากกว่า

เทคนิคฟื้นคืนความงามของเส้นผม 2019

เทคนิคฟื้นคืนความงามของเส้นผม 2019

การดูแลความงามของเส้นผมเป็นสิ่งสำคัญ ที่ส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจในการเข้าสังคม การดูแลอย่างสม่ำเสมอยังช่วยป้องกันอาการผมเสีย แห้งกรอบ และผมหงอกก่อนวัยได้ด้วย

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการดูแลความงามของเส้นผมที่ได้ผลจริงมาฝากกัน ดังนี้

1. การสระผม

สำหรับผู้ที่สระผมเป็นประจำและมีเส้นผมบางหรือผมแห้งง่าย ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ระบุบนฉลากว่าสำหรับสระผมได้ทุกวัน และใช้ครีมนวดตามหลังการสระผมทุกครั้ง สำหรับผู้ที่ทำสีผม การใช้แชมพูควรเลือกสูตรสำหรับรักษาสีผมให้คงทน เพื่อลดความถี่ในการต้องทำสีผมบ่อย ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้ผมเสียง่ายด้วย

2. การหมักผม

การหมักผม จำเป็นต่อการฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม ผู้ที่ผมแห้งหรือทำสีผม ควรเพิ่มระยะเวลาในการหมักผมจากปกติ 5 นาที ให้ยาวนานขึ้นเป็น 10 ถึง 15 นาที และเลือกสูตรที่เข้มข้น จะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านความชุ่มชื้น ผมนุ่มและมีน้ำหนักมากขึ้น

3. การทำสีผม

ควรจำกัดความถี่ในการทำสีผม เนื่องจากแฟชั่นทรงผมในปัจจุบันมีหลากหลาย และการทำสีผมก็เป็นอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งในกระบวนการทำสีผมจะต้องมีการใช้สารเคมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการกัดสีผม แล้วจึงทำการย้อมด้วยสีใหม่ ซึ่งจะทำให้มีอาการผมแห้งแตกปลายและหลุดร่วงได้ง่าย จึงไม่ควรทำสีผมบ่อยเกินไป (3 ถึง 6 เดือนต่อครั้งหนึ่งดีที่สุด)วิธีการดูแลความงามของเส้นผม

4.การใช้สมุนไพรหมักผม

เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่คนรักเส้นผมนิยมทำ โดยควรดูตามสภาพเส้นผม เช่น คนที่ผมมันควรจะใช้โยเกิร์ตผสมน้ำมะนาวหรือมะกรูด ส่วนผู้ที่มีผมแห้ง ควรที่จะใช้ไข่แดง เพื่อให้ได้โปรตีนในการฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่เข้มข้น

5. การเป่าผม

หลายคนมีปัญหาผมแห้งกรอบจากการเป่าผมด้วยไดร์ร้อนเป็นประจำหลังสระผม ควรเปลี่ยนมาใช้พัดลมหรือเช็ดผมแทน นอกจากนี้ ควรกำหนดเวลาสระผมก่อนนอน 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ ที่ทำให้มีปัญหารังแคและการหลุดร่วงของเส้นผมได้

จะเห็นได้ว่า การดูแลความงามของเส้นผมที่กล่าวมาทั้ง 5 ข้อนั้น เป็นสิ่งที่จะต้องทำเป็นประจำจึงจะเห็นผลด้านการฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะได้ชัดเจน และต้องดูแลเพิ่มเติม เช่น สปาผม และหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมที่ทำลายเส้นผมบ่อย ๆ เช่น การว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง อย่างตีกอล์ฟด้วย