ป้ายกำกับ: วิธีดูเเลผิว

เคล็ดลับการดูแลใบหน้า ให้สวยใส ไร้สิว

เคล็ดลับการดูแลใบหน้า ให้สวยใส ไร้สิว

การมีผิวหน้าสวยใส ไร้สิว เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่การจะดูแลผิวให้สวยใสนั้น จำเป็นต้องอาศัยความใส่ใจและการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เคล็ดลับการดูแลใบหน้าให้สวยใส ไร้สิว มีดังนี้

1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดผิวหน้า แนะนำให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และความมันส่วนเกินบนใบหน้า ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

2. ทาครีมบำรุงผิว

หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว แนะนำให้ทาครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน และช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ แนะนำให้เลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส เช่น วิตามินซี เรตินอล อาร์บูติน เป็นต้น

3. ทาครีมกันแดด

แสงแดดเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย กระ และฝ้า แนะนำให้ทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ ขึ้นไป

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระจ่างใส และสุขภาพดี แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว

5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยบำรุงผิวให้สวยใสจากภายในสู่ภายนอก แนะนำให้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ผัก และผลไม้ต่างๆ

6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใส สุขภาพดี

7. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว

ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ และการนอนดึก

นอกจากเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าข้างต้นแล้ว ยังสามารถเสริมการดูแลผิวด้วยการทำทรีตเมนต์จากคลินิกความงาม ซึ่งจะช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อเลือกวิธีการดูแลผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเพื่อป้องกันเชื้อโรค

การทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเพื่อป้องกันเชื้อโรค

การทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น สิว แพ้ ระคายเคือง เป็นต้น

วิธีทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเพื่อป้องกันเชื้อโรค มีดังนี้

  1. เตรียมอุปกรณ์
  • น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า หรือสบู่เหลว หรือแชมพูเด็ก
  • ภาชนะสำหรับล้างแปรง
  • น้ำอุ่น
  • กระดาษทิชชู่หรือผ้าขนหนู
  1. ล้างแปรงด้วยน้ำอุ่น

เทน้ำอุ่นลงในภาชนะสำหรับล้างแปรง จากนั้นนำแปรงมาจุ่มน้ำอุ่นและขยี้เบาๆ เพื่อล้างสิ่งสกปรกออก

  1. ทำความสะอาดแปรงด้วยน้ำยาทำความสะอาด

เทน้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าหรือสบู่เหลวหรือแชมพูเด็กลงในภาชนะสำหรับล้างแปรง จากนั้นนำแปรงมาจุ่มน้ำยาทำความสะอาดและขยี้เบาๆ ประมาณ 1-2 นาที

  1. ล้างแปรงด้วยน้ำสะอาด

ล้างแปรงด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อล้างน้ำยาทำความสะอาดออก

  1. ซับแปรงให้แห้ง

ซับแปรงด้วยกระดาษทิชชู่หรือผ้าขนหนูให้แห้งสนิท

  1. เก็บแปรงไว้ในที่แห้ง

เก็บแปรงไว้ในที่แห้งเพื่อป้องกันการขึ้นรา

นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือบ่อยกว่านั้นหากใช้แปรงบ่อยๆ

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า

  • ควรล้างแปรงแต่งหน้าแยกประเภท เพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
  • หากแปรงแต่งหน้ามีขนแปรงที่ละเอียดอ่อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง
  • หากแปรงแต่งหน้ามีขนแปรงที่แข็ง ควรใช้แปรงปัดแปรงเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออก
  • หากแปรงแต่งหน้ามีขนแปรงที่หลุดร่วง ควรเปลี่ยนแปรงใหม่

การทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากเชื้อโรคและแบคทีเรีย ช่วยให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีและดูสดใสอยู่เสมอ

เคล็ดลับการดูแลผิวของสาวๆ

เคล็ดลับการดูแลผิวของสาวๆ

มีกิจวัตรการดูแลผิวสำหรับเด็กผู้หญิงที่แตกต่างกันมากมาย แต่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดบางขั้นตอนได้แก่

1.คลีนซิ่ง นี่เป็นขั้นตอนแรกในการขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเครื่องสำอางออกจากผิว ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

2.การปรับสี การปรับสีช่วยปรับสมดุล pH ของผิว และขจัดสิ่งสกปรกหรือน้ำมันที่หลงเหลืออยู่ ใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และไม่ระคายเคือง

3.ให้ความชุ่มชื้น นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและสภาพอากาศของคุณ

4.ขัดผิว การขัดผิวช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเผยผิวที่กระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น ขัดผิวสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณ

5.การป้องกัน SPF นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการปกป้องผิวจากแสงแดด ใช้ครีมกันแดดแบบสเปกตรัมกว้างที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าทุกวัน แม้ว่าจะมีเมฆมากก็ตาม

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการดูแลผิวของสาวๆ มีดังนี้

-อ่อนโยนต่อผิวของคุณ หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

-ดื่มน้ำปริมาณมาก น้ำช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี

-กินอาหารเพื่อสุขภาพ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสามารถช่วยให้สุขภาพผิวโดยรวมของคุณดีขึ้นได้

-นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้น

หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับผิวของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์ผิวหนัง พวกเขาสามารถช่วยคุณพัฒนากิจวัตรการดูแลผิวที่เหมาะกับคุณได้

ต่อไปนี้เป็นกิจวัตรการดูแลผิวที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผิวประเภทต่างๆ

1.ผิวมัน ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำมันและไม่ทำให้เกิดสิว ซึ่งหมายความว่าจะไม่อุดตันรูขุมขน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหรือปิโตรเลียมเจลลี่ คุณอาจต้องการใช้โทนเนอร์ที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน ให้ความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาที่ปราศจากน้ำมัน

2.ผิวแห้ง ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่และไม่ระคายเคือง มองหามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิกหรือกลีเซอรีนซึ่งเป็นสารฮิวเมกแทนท์ที่ช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิว คุณอาจต้องการใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้าเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น

3.ผิวผสม ผิวประเภทนี้มีความมันในบางพื้นที่ เช่น บริเวณทีโซน และผิวแห้งในบริเวณอื่นๆ ใช้น้ำยาทำความสะอาดและมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ออกแบบมาสำหรับผิวผสม คุณอาจต้องการใช้โทนเนอร์เพื่อช่วยปรับสมดุล pH ของผิว

4.ผิวแพ้ง่าย ผิวประเภทนี้ระคายเคืองได้ง่ายจากผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง ใช้น้ำยาทำความสะอาดและมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำหอมและไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ คุณอาจต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำมันหอมระเหย

ไม่ว่าสภาพผิวของคุณจะเป็นแบบไหน สิ่งสำคัญคือต้องหากิจวัตรการดูแลผิวที่เหมาะกับคุณและเพื่อให้สอดคล้องกับกิจวัตรของคุณ เพียงใส่ใจเพียงเล็กน้อย คุณก็จะมีผิวสวยสุขภาพดีได้ยาวนานหลายปี

5 เคล็ดลับความงามสำหรับเจ้าสาวในวันแต่งงาน

5 เคล็ดลับความงามสำหรับเจ้าสาวในวันแต่งงาน

เคล็ดลับความงามที่จำเป็นสำหรับเจ้าสาวในวันแต่งงาน ตั้งแต่การแต่งหน้าไปจนถึงการดูแลผิวให้ดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า การเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานโดยทั่วไปมีขั้นตอนมากมาย เราจะพูดถึง 5 ขั้นตอนสำคัญที่ทำให้คุณสวยมั่นใจและดูดีในฐานะนางเอกของงาน แม้ว่าเจ้าสาวส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่ชุดเจ้าสาว สไตล์ทรงผมและการแต่งหน้าเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วควรดูแลครอบคลุมตั้งแต่เล็บไปจนถึงการดูแลผิวเพื่อให้แน่ใจว่าคุณดูดีและรู้สึกดีที่สุดระหว่างเดินเคียงคู่กับเจ้าบ่าว 

1.เคล็ดลับการดูแลผิว

เจ้าสาวควรดูแลผิวหน้าผิวกายให้สวยใส คิดว่าผิวเป็นเหมือนผืนผ้าใบเปล่า ดังนั้น ก่อนวันแต่งงานต้องเตรียมการดูแลผิวให้แน่ใจว่าใบหน้าสะอาด เน้นความชุ่มชื้นยังเป็นกุญแจสำคัญเพื่อให้ผิวอ่อนนุ่ม ผิวเรียบเกลี้ยงเกลา และใช้ครีมกันแดดด้วย เพื่อความโดดเด่นแต่งหน้าสวย ๆ ในวันสำคัญ ไม่ใช่ผิวเป็นสิวและไม่เรียบจนต้องโบกแป้งหนา ๆ หนัก ๆ 

2.เคล็ดลับการแต่งหน้า

ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือนกันทั้งหมด ควรเลือกเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ ส่วนผสมบางอย่าง เช่น กรดไฮยาลูรินิกและเซราไมด์เก็บรักษาน้ำในผิว สำหรับผิวแห้งและผิวที่ขาดความชุ่มชื้น สำหรับเจ้าสาวที่มีผิวแห้งต้องใช้ไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำให้ใบหน้าเป็นขุย ส่วนเจ้าสาวที่มีผิวมันควรหาเครื่องสำอางที่เข้ากับผิวมันโดยเฉพาะ เช่น ใช้เซรั่มเคลือบผิวหรือไพรเมอร์ต่อต้านความมันเพื่อให้แน่ใจว่าผิวกระจ่างใสและปราศจากความมันตลอดวัน 

3.เคล็ดลับการดูแลเส้นผม

เมื่อต้องเตรียมทรงผมสำหรับวันแต่งงาน อย่าทำสีหรือตัดผมเปลี่ยนทรงกะทันหัน เพราะผลลัพธ์ในวันแต่งงานอาจแตกต่างจากที่คุณต้องการในตอนแรก หากคุณต้องเปลี่ยนทรงผมควรแจ้งให้ช่างทำผมทราบและเตรียมตัวล่วงหน้าก่อน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง ใช้มาสก์ผมและครีมนวดผมอย่างล้ำลึกเป็นประจำเพื่อบำรุงเส้นผมแข็งแรงและเงางาม มีความชุ่มชื้นและสะอาดอยู่เสมอ 

4.เคล็ดลับการดูแลเล็บ

เจ้าสาวส่วนใหญ่มีนัดทำเล็บก่อนวันแต่งงาน แต่หลายคนมักจะลืมขั้นตอนแรกที่สำคัญนั่นคือควรทดลองทำเล็บก่อนเพื่อจะได้รู้สีและความยาวเล็บที่ต้องการจริง ๆ อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวมือทุกวันอย่างน้อย 6 เดือนก่อนแต่งงาน ไม่ควรใช้มือทำอะไรรุนแรงเพื่อไม่ให้เล็บแตก หัก หรือหนังกำพร้าแห้ง

5.เคล็ดลับการแต่งหน้า

ในวันแต่งงานจริง ๆ เจ้าสาวส่วนใหญ่ใช้ทริคการแต่งหน้าง่าย ๆ ไม่กี่ข้อ เช่น ทารองพื้นให้ผิวเปล่งประกาย แต่ไม่แวววาวเกินไป สำหรับการถ่ายภาพให้ใช้ไฮไลต์ที่โหนกแก้ม สันจมูก และปลายจมูก หลีกเลี่ยงการใช้ไฮไลต์บนหน้าผากทำให้ดูมันเยิ้มในภาพถ่าย เลือกแป้งโปร่งแสงที่สว่างกว่าสีผิว ใช้แปรงขนนุ่มปัดขอบคิ้วดูเป็นธรรมชาติ สุดท้ายสำหรับการทาลิปสติกใช้ดินสอเขียนขอบปากทั่วริมฝีปากให้ใกล้เคียงกับสีธรรมชาติ

วิธีดีที่สุดควรเริ่มขั้นตอนการดูแลผิวเป็นประจำและทำฟันขาวอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีก่อนการแต่งงาน ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ โซดา หรือแอลกอฮอล์ 1-2 สัปดาห์ พบแพทย์ผิวหนังหากมีสิวหรือโรคผิวหนังอื่น ๆ หากเจ้าสาวสนใจฉีดหรือลอกผิวด้วยสารเคมีควรทำก่อนวันแต่งงานนานกว่า 6 เดือนเผื่อว่าจะเกิดอาการแพ้โดยไม่คาดคิด

ปัญหาสิวและผิวมันฤดูร้อน ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ

ปัญหาสิวและผิวมันฤดูร้อน ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ

ผิวแห้ง ผิวมัน เป็นสิว ฝ้า กระ จะมีอะไรแย่ไปกว่าฤดูร้อน? เหงื่อออกหน้ามันเหนียวเหนอะหนะ ลบเลือนเครื่องสำอางและครีมกันแดดออกไปหมด เรารวมเคล็ดลับการดูแลผิวเพื่อจัดการความมัน สิว และรูขุมขน พร้อมกับการรักษาผิวให้สมดุล สดชื่นและเปล่งประกายมาฝากสาว ๆ กัน

1.ใช้กระดาษซับมัน

ความร้อนและความชื้นทำให้ผิวมันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว สิวผด และรูขุมขนกว้าง พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าและใช้กระดาษซับมันค่อยๆ แตะบนผิวหน้าแทน การล้างหน้าบ่อยเกินไปทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น แนะนำให้เลือกใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนล้างหน้าวันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิว โดยเฉพาะจุดที่มันเยิ้มที่สุดคือบริเวณทีโซน ถ้าล้างหน้าบ่อยเกินจำเป็น ผิวจะสร้างน้ำมันมากขึ้นเพื่อคืนความชุ่มชื้น แทนที่จะควบคุมความมันกลับทำให้หน้ามันมากขึ้น

2.กินอาหารที่สมดุล 

อาหารที่สมดุลมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิว เลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน  ถั่ว ผักและผลไม้ ช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุล ส่งผลให้สุขภาพผิวดีและผิวมันน้อยลง สิ่งสำคัญคือต้องดื่มน้ำมาก ๆ การขาดน้ำมักจะเป็นสาเหตุให้ผลิตน้ำมันมากเกินไป และทาครีมให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ

3.แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ

ความมันส่วนเกินทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย ดูหมองคล้ำ และอ่อนล้าไม่สดใส จัด รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาจริงๆ แนะนำให้ใช้โทนเนอร์ทำความสะอาดและกระชับรูขุมขนให้เล็กลง พร้อมขจัดความมันส่วนเกินออกจากใบหน้า ผิวกระชับตึงยิ่งขึ้น โทนเนอร์เป็นตัวช่วยที่ดีเหมาะสำหรับผิวสาวในวันที่มีแดดจัด 

4.สิวหัวดำและสิวหัวขาว

หน้ามันเกิดจากต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตน้ำมันมากเกินไป กลายเป็นสิวอุดตันหัวดำ หรือสิวเสี้ยน หากเราดูแลตนเองอย่างถูกวิธีช่วยป้องกันโอกาสที่จะเกิดสิวหัวดำขึ้นซ้ำ ๆ โดยเฉพาะบริเวณแก้มและจมูก โดยเซลล์ผิวที่ตายแล้วมักจะไปอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดสิวหัวขาวและสิวหัวดำอีกด้วย แนะนำให้สาวๆ ขัดผิวเป็นประจำสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ผสานกับขั้นตอนการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนป้องกันการเกิดสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและลดผิวมันด้วย

5.ทามอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา

สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย เมื่อเข้าสู่หน้าร้อนควรเปลี่ยนไปใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่เหมาะสม แต่อย่าใช้มากเกินไปหลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้ามันเยิ้มในช่วงกลางวันและช่วยป้องกันการเกิดสิวได้

6.ทาครีมกันแดด

ช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้า แนะนำให้สวมแว่นกันแดดและหมวกปีกกว้าง ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตราย ให้ครีมกันแดดถือเป็นส่วนสำคัญของขั้นตอนการดูแลผิว หากต้องออกแดดทั้งวันควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง

ในฤดูร้อนผิวสาวต้องเผชิญกับแสงแดด มลภาวะ และระดับรังสียูวีที่สูงขึ้น เป็นสาเหตุให้ผิวเหนื่อยล้า ผิวหมองคล้ำ และเกิดสิวซ้ำซาก ขั้นตอนการดูแลผิวอย่างเหมาะสมไม่ยากอย่างที่คิด ปัจจุบันมีตัวช่วยดี ๆ เยอะ เราแนะนำให้เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อยจึงจะดีที่สุด

สูตร ความงาม ด้วยวิธีธรรมชาติ ฉบับสาวพันปี

สูตร ความงาม ด้วยวิธีธรรมชาติ ฉบับสาวพันปี

ความงาม จะเกิดขึ้นได้บางคนแทบไม่ต้องบำรุงอะไรเลย เพราะเกิดมามีต้นทุนผิวที่ดีจนแทบไม่ต้องเสียเงินซื้อครีมบำรุง แต่ใช่ว่าความงามเหล่านั้นจะอยู่กับคุณไปตลอดกาล ยังมีเคล็ดลับหน้าใสดูอ่อนเยาว์อีกมากมาย วันนี้เราจึงนำ 6 วิธีการดูแลผิวง่าย ๆ มาฝาก เป็นรูปแบบธรรมชาติ ไม่ต้องลงทุนเยอะ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเท่านั้น ไปดูกันว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

1.ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร หรือวันละ 8-12 แก้วต่อวัน จะทำมีผิวพรรณที่ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ พร้อมกับมีออร่าความกระจ่างใสและหากรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น ขาวใสกว่าที่เคยเป็นอีกด้วย ต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่คำพูดสวยหรู แต่หากทำได้จริง คุณจะมีผิวที่แลดูอ่อนเยาว์สวยราวกับสาวพันปีเลยล่ะ

2.พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อผิวที่สดใส การนอนถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรละเลย เพราะในระหว่างที่คุณกำลังนอนนั้นผิวและร่างกายภายในกำลังซ่อมแซมตัวเอง ฉะนั้นไม่ควรนอนดึก นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำดีที่สุด

3.เพื่อสุขภาพผิวที่ดีควรเน้นกินผัก ผลไม้ เพราะมีประโยชน์และสารอาหารมากมาย หากทานได้ประจำส่งผลทำให้คุณมีผิวที่ดีขึ้น อย่างผลไม้เต็มไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิว ทั้งวิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 

4.สกินแคร์ตัวช่วยที่ดี สิ่งนี้คนรักผิวแทบทุกคนมีประจำหน้ากระจก เพราะในผลิตภัณฑ์บำรุงมีสารสกัดที่ดีต่อผิวมากมาย ยิ่งเป็นเซรั่มที่มีความเข้มข้นสูงจะทำให้ผิวของคุณฟื้นตัวไวและหากเริ่มมีริ้วรอยการใช้สกินแคร์จะช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดีเดียว 

5.หน้าต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี แม้ว่าคุณจะบำรุงหน้ามาดีแค่ไหนหรือจะทานสารอาหารอย่างครบถ้วนมาแล้วก็ตาม เรื่องความสะอาดบนใบหน้าก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะใบหน้าต้องสู้กับฝุ่น ควัน มลพิษมากมาย ฉะนั้นเพื่อเป็นการชะล้างผิวให้พร้อมต่อการบำรุง การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีมีความจำเป็นอย่างมาก 

6.ทุกครั้งก่อนแต่งหน้าอย่าลืมทาครีมกันแดด หากคุณยังอยู่ในเมืองไทยก็คงหนีไม่พ้นเรื่องแสงแดดที่ร้อนจัด แม้จะเป็นฤดูหนาวแสงแดดก็ยังตามมารังควานคุณไม่เลิก ฉะนั้นเพื่อให้ผิวของคุณยังสวย สว่างกระจ่างใสควรทาครีมกันแดดเสมอ 

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีการดูแลผิวและความงามของสาวพันปี แต่ละข้อนำไปทำตามไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ หากอยากสวยแบบที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายคุณได้ จะต้องลองทำทุกข้ออย่างเป็นประจำจะทำให้คุณสวยสมหวังแน่นอน

โทนเนอร์จำเป็นสำหรับการดูแลผิวจริงเหรอ

โทนเนอร์จำเป็นสำหรับการดูแลผิวจริงเหรอ

โทนเนอร์สำหรับผิว คืออะไร และทำหน้าที่อะไรกันแน่ หลาย ๆ คนก็ยังคงมีข้อสงสัยกันอยู่ว่า จริง ๆ แล้วในขั้นตอนการดูแลและผิวระหว่างวันนั้น จำเป็นต้องใช้โทนเนอร์หรือเปล่า เพียงแค่ล้างหน้าแล้วตามด้วย เซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า คุณอาจจะยังไม่เข้าใจประโยชน์ของโทนเนอร์อย่างแท้จริง 

โทนเนอร์จำเป็นสำหรับขั้นตอนการดูแลผิวประจำวัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โทนเนอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทมัลติฟังก์ชั่น ที่มีประโยชน์มากกว่าแค่ช่วยเช็ดทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกหลังการล้างหน้า เพราะหลังการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ผิวของเราจะมีสภาพเป็นด่างอ่อน ๆ อันเนื่องมาจากโดยปกติผลิตภัณฑ์ล้างหน้าจะเป็นสารประเภทอัลคาไลน์หรือเป็นด่าง ดังนั้นหากคุณทาเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในตอนนี้ สภาพความเป็นด่างบนผิวหน้า จะทำปฏิกิริยากับตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลง รวมทั้งทำให้เกิดการยับยั้งการซึมผ่านของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลงไปใต้ชั้นผิวอีกด้วย 

ดังนั้นโทนเนอร์จึงเข้ามาช่วยเตรียมผิวสำหรับขั้นตอนนี้ โดยโทนเนอร์จะช่วยปรับค่าความเป็นกรดเป็นด่างของผิวให้เป็นกลาง ดังนั้นเมื่อคุณทาเซรั่ม หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหลังการใช้โทนเนอร์ ย่อมจะทำให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเหล่านี้ สามารถซึมซาบลงไปใต้ชั้นผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดผลลัพธ์ในการช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าได้ดีกว่า

เราควรใช้โทนเนอร์อย่างไร

วิธีการใช้โทนเนอร์นั้นง่ายมาก ๆ เพียงแค่คุณเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ หลังจากการล้างหน้า ก็ให้คุณใช้โทนเนอร์ก่อนเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ คุณอาจจะใช้วิธีหยดลงบนแผ่นสำลีจากนั้นซับเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ หรือจะหยดโทนเนอร์ใส่ที่นิ้วมือของคุณโดยตรง แล้วกดซับเบา ๆ ลงบนใบหน้าก็ได้เช่นกัน แถมยังช่วยประหยัดผลิตภัณฑ์ได้ดีอีกด้วย และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรใช้โทนเนอร์ทั้งในตอนเช้าและตอนกลางเย็น ในทุก ๆ วัน แต่การใช้โทนเนอร์หยดลงบนสำลีนั้น จะมีข้อได้เปรียบก็คือ โทนเนอร์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกรวมทั้งผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่สามารถเข้าถึงได้ ให้ออกมาพร้อมกับแผ่นสำลีได้อีกด้วย ดังนั้นเคล็ดลับของการทำความสะอาดที่หมดจดที่แท้จริงนั้น โทนเนอร์จึงมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ดังนั้นเพียงแค่เพิ่มขั้นตอนการใช้โทนเนอร์ลงไปในกิจวัตรการบำรุงผิวประจำวันของคุณ ซึ่งก็ใช้เวลาอีกเพียงแค่เล็กน้อย คุณก็จะได้ผลลัพธ์ของการบำรุงผิวที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน และเราขอรับรองว่าโทนเนอร์นั้นจำเป็นจริง ๆ

วิธีเลือกเครื่องสำอางเรื่องที่สาวๆต้องรู้

วิธีเลือกเครื่องสำอาง

ปัจจุบันเรื่องความงามเป็นอะไรที่อยู่ในความนิยม

มีข้อมูลต่างๆมากมายจากเหล่ากูรูและผู้รู้ต่างๆที่ขยันมาแนะนำการเลือกเครื่องสำอาง การใช้ และแนะนำสินค้าความงามต่างๆ แต่รู้ไหมว่าการแนะนำนั้นอาจใช้ดีและได้ผลกับบางคน บางคนก็ไม่สามารถใช้ได้ เพราะมีอาการแพ้ หรือ ใช้แล้วไม่เหมาะซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างขึ้นอยู่กับชนิดของเครืองสำอางนั้นๆเช่น

แป้ง แป้งแต่งหน้ามีหลายชนิด ทั้งแบบแข็ง และแบบฝุ่น

ซึ่งจะมีส่วนผสมต่างๆกันไปในแต่ละแบรนด์ หลายคนเลือกตามคำแนะนำแม้จะเลือกเฉดสีที่เข้ากับผิวแต่ใช้แล้วก็ดูไม่โอเค นั่นเป็นเพราะเฉดสีแต่ละแบรนด์นั้นไม่เหมือนกัน หลายคนก็มีอาการแพ้จากส่วนผสม ซึ่งการเลือกแป้งทาหน้านั้นก็ควรลองจากเทสเตอร์ก่อน โดยเลือกเฉดที่คิดว่าน่าจะเข้ากับสีผิวทาลงบนหลังมือ วิธีเลือกเครื่องสำอาง ดูว่ากลมกลืนกับผิวแค่ไหน และควรทาทิ้งไว้หลายๆชั่วโมงเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากไม่คันไม่มีผื่นนั่นคือไม่แพ้ ส่วนการดูเฉดสีก็ดูว่าสีทีทานั้นทำให้ผิวบริเวณที่ทาเนียนขึ้นไหม ขาวเกินไป หรือคล้ำเกินไปหรือเปล่า ทิ้งไว้นานๆมีคราบขึ้นไหม เป็นต้น เพราะแป้งเป็นเครื่องสำอางที่จะช่วยทำให้หน้ากระจ่างหากเลือกผิดเบอร์แน่นอนว่าหน้าสวยๆก็กลายเป็นหน้าผีๆได้

ลิปติก เป็นเครื่องสำอางอีกชนิดที่ต้องระวังในการเลือกไม่ใช่แค่เฉดสี

แต่ส่วนผสม และบางคนแพ้ลิปติกคือทาแล้วปากคล้ำหรือดำเหมือนคนสูบบุหรี่ได้ หรือ มีอาการลอก ดังนั้นลิปติกจึงเป็นเครื่องสำอางที่หลายคบอกว่าเลือกดีๆยากเพราะตอนเทสนั้นจะเทสกับหลังมือดูสีว่าเหมาะไหม แต่ไม่ได้ทาทีปากและกว่าจะรู้ว่าปากคล้ำก็ใช้ไปจนเกือบหมดก็มี ดังนั้นวิธีที่สาวๆหลายคนเลือกซื้อลิปติกคือ เลือกแบรนด์ดังๆที่มีคุณภาพมีการรับรองแม้จะมีราคาแพงแต่ปลอดภัยกว่าในเรืองของส่วนผสมที่ไม่มีอันตราย

ครีมรองพื้น เป็นอีกชนิดที่เลือกคล้ายๆแป้ง

ที่ต้องทดสอบและทิ้งไว้ระยะหนึ่งเพื่อดูอาการแพ้เช่น คัน หรือมีผดผื่นหลังการใช้ และดูเฉดสีที่ต้องดูว่าหากทิ้งไว้หลายชั่วโมงมีคราบขึ้นหรือจางลงแค่ไหนกันน้ำได้จริงไหม กันเหงื่อหรือเปล่า เป็นต้น

แม้ว่าการเลือกเครื่องสำอางจะดูวุ่นวายแต่มันก็ทำให้เราระวังในการเลือกซื้อเพราะหากเลือกผิดนอกจากหน้าพังแล้วยังเสียเงินฟรีๆ และควรเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพมีการรับรอง ดูส่วนผสมและวันหมดอายุ หรือดูอายุการใช้งาน การเก็บรักษาด้วย

สูตรเร่งขาว ทำง่ายๆ

วิธีดูเเลผิว ให้ผิวขาวกระจ่างใส ฉบับเจ้าสาว

ในชีวิตของลูกผู้หญิงทุกๆคน เชื่อได้เลยว่าต่างก็จะมักมีความความที่เรานั้นมักจะคาดหวังไว้ว่าในอนาคต เราต้องทำเรื่องโน่นเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องทำให้ได้ เราต้องมีให้ได้ ซึ่งความฝันเหล่านั้นก็จะมีมากมายหลายเรื่อง ขึ้นอยู่กับว่าลูกผู้หญิงเเต่ละคนนั้นอยากจะให้เป็นอย่างไร บางคนอาจจะคิดว่า ครั้งหนึ่งที่เกิดมาดิฉันต้องมีบ้าน มีรถ ต้องเรียนจบ มีหน้าทีการงานทำที่มั่นคง มีเงินที่จะเลี้ยงดูครอบครัว หรือชีวิตดิฉันเกิดมาฉันต้องรวยให้ได้ เเต่เรื่องหนึ่งเลยที่เชื่อได้เลยว่าลูกผู้หญิงทุกๆคนนั้นมักจะใฝ่ฝันไว้ตั้งเเต่ตัวเองนั้นยังเป็นเด็กๆ นั้นก็คือการเเต่งงานมีครอบครัววันที่เรานั่นต้องออกเรือนมีครอบครัวเป็นของตัวเราเอง การเเต่งงานนั้นเเต่ละประเพณีจะมีวัฒนธรรมที่เเตกต่างกันออกไป บางครอบครัวอาจจะจัดงานเเต่งเเบบเรียบง่าย หรือบางครอบนั้นอาจจะจัดงานเเต่งเเบบใหญ่โตมาก เเต่เรื่องนี้ สำหรับสาวบางท่านยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ ในวันที่เราเเต่งงาน เราต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานเเต่งของเรา สำหรับบางคนที่รูปร่างหน้าตาสวยอยู่เเล้ว ก็อาจจะไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย เเต่สำสำหรับเจ้าสาวที่รูปร่างหน้าตาไม่โอเคล่ะ จะต้องทำอย่างไร

เรื่องนั้นอย่าคิดมากไปนะคะ เรื่องรูปร่างหน้าตานั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญมาก อย่าไปเคลียดเรื่องนี้เลยคะ เพราะในวันที่เราเเต่งงานนั้น เจ้าบ่าวเค้าต้องมองว่าเราเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกอยู่เเล้วคะ ซึ่งความสวยนั้นเป็นความสวยที่สวยออกมาจากข้างใน เเต่จะทำยังไงได้เกิดเป็นลูกผู้หญิง ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ได้จะเเต่งกันได้บ่อยๆซะหน่อย ยังไงก็ต้องดูเเลตัวเองกันบ้างเเหละใช่ไหมคะ วันนี้จึงขอนำสูตรไม่ลับในการดูเเลผิว เพื่อเตรียมผิวของเจ้าสาวนั้นให้ออกมาสวย ขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง เพื่อวันสำคัญโดยเฉพาะเลยคะ สูตรผิวกระจ่างใสของเจ้าสาว ยังไงลองทำกันดูนะคะ 2 สูตรนี้รับรองปลอดภัยคะ เพราะทำจากธรรมชาติ 100% มาลุยกันเลยคะ

สูตรผิวขาวกระจ่างใส คุณเจ้าสาว 1

ส่วนผสม:

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
  • ผงขมิ้น
  • ใยบัวที่ใช้ในการขัดผิว
  • ถ้วยผสม (ควรมีช้อนเล็กๆใช้ในการผสม)
  • ครีมอาบน้ำ
  • โลชั่นบำรุงผิว

ก่อนเริ่มทำเราควรถูสบู่ชำระล้างร่างกายก่อนนะคะ ให้นำผงขมิ้นกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาผสมให้เข้ากันดี เเล้วนำมาทาให้ทั่วตัว ในระหว่างที่เราทานั้นให้เราทำการนวดไปด้วย โดยค่อยๆนวดเป็นวงกลมจนทั่ว เสร็จเเล้วทำการทิ้งไว้ 5-10 นาที จากนั้นให้ใช้ใยบัวที่ขัดตัว บีบครีมอาบน้ำใส่ให้เกิดฟองเล็กน้อย นำมาขัดตัวโดยที่เราไม่ต้องล้างขมิ้น+โยเกิร์ตออก เริ่มขัดจากปลายเท้าขึ้นมาจนทั่วทั้งตัว เสร็จเเล้วล้างน้ำออก เช็คตัวให้เเห้งเเล้วทาโลชั่นบำรุงผิวตามในทันที สูตรนี้เเนะนำให้ทำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ผิวของเจ้าสาวจะค่อยๆขาวเนียนขึ้น เเนะนำให้ทำล่วงหน้าก่อนจะถึงวันที่เเต่งงานสัก 1-2 เดือนนะคะ

สูตรผิวขาวกระจ่างใส คุณเจ้าสาว 2

ส่วนผสม:

  • มะขาม 1 กำมือ
  • ผงขมิ้้น 2 ช้อน
  • นมสด 1/2 กล่อง
  • เกลือละเอียด (ตามชอบนะคะ ชอบข้นๆหรือชอบเหลวๆ)
  • ถ้วยผสม (ควรมีช้อนเล็กๆใช้ในการผสม)

นำส่วนผสมทั้งหมดมาเทใส่ถ้วยผสมให้เข้ากันดี เเล้วนำมาขัดผิว โดยขัดเป็นวงกลมๆ ขัดเบาๆ ทำเเบบนี้ประมาณ 5-10 นาทีเเล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะทำให้เราได้ผิวขาวกระจ่างใสเเละผิวนุ่มมาก เหมาะมากสำหรับคนที่ผิวเเห้ง ขัดเเล้วอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวขาวทุกครั้งด้วยนะคะ เพื่อเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น
2 สูตรลับเผยผิวขาว ทำง่ายด้วยตัวคุณเองค่ะ ^_^

ประโยชน์คอลลาเจน

วิธีดูเเลผิวด้วยคอลลาเจน

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าคอลลาเจนนั้นคืออะไร เเล้วมีประโยชน์ต่อผิวหน้าผิวพรรณของเรานั้นอย่างไร ทำไมอาหารเสริมหลายๆเเบรนด์ หลายๆยี่ห้อ จึงได้นำมาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ซึ่งเค้าได้เเจ้งว่า คอลลาเจน เป็นตัวที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้หน้าขาวใส ไร้ฝ้ากระจุดด่างดำ ลดสิว ผิวกายดูเรียบเนียน เเละสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้าก็สามารถทำให้ปัญหาต่างๆจางลงได้อีกด้วย โดยที่เรานั้นไม่จำเป็นต้องใช้ ครีมทาหน้า ครีมหน้าใส ครีมลดสิว หรือหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน วันนี้จะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันว่าคอลลาเจนนั้นคืออะไร เเล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากคอลลาเจน

คอลลาเจน โดยปกติเเล้วร่างกายของคนเราจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น ข้อต่อ ขน เส้นผม ซึ่งรวมไปถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดของร่างกายเรา ซึ่งคอลลาเจนจะทำหน้าที่เพิ่มความยืดหยุ่นเเละความเเข็งเเรงให้กับอวัยวะต่างๆของร่างกาย เเต่คอลลาเจนจะมีช่วงที่ผลิตได้ในปริมาณที่เยอะคือในช่วงวัยเด็ก เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายเราอายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนนั้นย่อมลดลงตามความเสื่อมของร่างกาย ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆด้วยที่ทำให้คอลลาเจนลดลง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการดำรงชีวิต การบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งเมื่อเวลาที่คอลลาเจนนั้นลดลงย่อมเกิดผลที่ตามมาต่อตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวพรรณที่เคยขาวกระจ่างใส กลับเหี่ยวก่อนวัยอันควร เเถมยังเกิดริ้วรอย เกิดรอยตีนกา ผิวเเห้ง ผิวหยาบกร้านไปหมด เกิดความหมองคล้ำง่ายมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ได้สร้างปัญหาเเละความหนักใจให้กับใครหลายๆคนไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายที่รักสวยรักงาม คอลลาเจนไม่ใช่ว่าเเต่จะผลิตขึ้นในร่างกายเราได้อย่างเดียวนะคะ เราก็สามารถพบคลอลาเจนได้ในอาหารจำพวกสัตว์ทะเล เนื้อสัตว์ต่างๆ พืชผักใบเขียว เห็ดชนิดต่างๆ ถั่วหลากสี ฯลฯ เรามาดูอาหารที่ช่วยในการผลิตคอลลาเจนทดแทนกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

อาหารที่เสริมสร้างคอลลาเจน

  1. ผักจำพวกสีเขียวเข้ม ผักพวกนี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระเรียกว่า “ลูทีน” เป็นส่วนประกอบที่จะช่วยให้ร่างกายสร้างความสามารถในการผลิตคอลลาเจนเเละก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากโปรตีนได้อย่างมีประสิทธิภาพอันสูงสุด มันจะอยู่ในพวกผัก เช่น ผักโขม ผักคะน้า กระหล่ำปลี
  2. ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง พวกนมถั่วเหลือง โดยผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากถั่วเหลืองจะมีเจนีสทีน ซึ่งช่วยให้เกิดการผลิตคอลลาเจน
  3. วิตามิน C มักจะอยู่ในผักเเละผลไม้ เราจึงควรรับประทานผักเเละผลไม้ให้มากๆ เพราะเป็นเเหล่งของวิตามินซี มักจะพบใน ส้ม มะนาว สตอเบอรี่ เป็นอาหารที่ช่วยในการผลิตคอลลาเจนที่สำคัญ ที่ทำให้ร่างกายสามารถสร้างเเละดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างดีเยี่ยม
  4. สารต้านอนุมูลฮิสระ มักอยู่ใน หัวผักกาด พริกเเดง พรุน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันเเละช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนอีกด้วย
  5. ผลไม้สีเเดงเเละผักที่มีไลโคปีน เป็นองค์ประกอบที่ช่วยต้านอนุมูลฮิสระเเละเสริมสร้างคอลลาเจน
  6. กรดโอเมก้า มักพบใน ปลาทูน่า ปลาเเซลม่อน อัลมอนด์ อะโวคาโด
  7. วิตามิน E อาหารที่เป็นเเหล่งของวิตามินอีได้เเก่ ผักโขม ข้าวโพด มะกอก จมูกข้าวสาลี ฯลฯ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการป้องกันผิวจากการทำลายของเเสงเเดดเเละอนุมูลฮิสระ ซึ่งตัววิตามิน E จะช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความอ่อนนุ่มเรียบเนียนให้กับผิว
  8. วิตามิน A เป็นตัวช่วยในการปรับสีผมของเรา ขจัดผิวที่เเห้งกร้าน ทำให้ผิวกระชับ รักษาให้คงความอ่อนวัย มักจะพบในพวก นม เนื้อ ปลา เเครอท ไข่ ตับ ฯลฯ
  9. ทองเเดง เป็นเเร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลาเจน ในจะพบอยู่ในส่วนประกอบในอาหาร เช่น น้ำอ้อย ถั่วเขียว มะเขือเทศ มันฝรั่ง เป็นต้น

และนี่คือเกร็ดความรู้เล็กน้อย ที่จะช่วยเพิ่มความสวยให้แก่ผิวได้ง่าย ผิวดูชุ่มชื้น ถ้าหมั่นดูแลผิวด้วยอาหารเหล่านี้ บางทีก็อาจไม่จำเป็นต้องทาครีมบำรุง ครีมทาผิวขาว โลชั่นทาผิว เพราะอาหารที่มีคอลลาเจนจะปรับสภาพจากภายในสู่ภายนอกร่างกายได้ดีอยู่แล้ว จะใช้ก็คงมีแต่ครีมทากันแดดกรณีออกแดดแค่นั้นเอง